10.09.2556

6 ต.ค. 56 กับการถ่ายเป็นเลือด

อายุครรภ์ : 25 สัปดาห์
  วันนี้ีรู้สึกปวดท้องถ่ายมากค่ะ แต่นั่งเท่าไหร่ก็ไม่ออกซะที ทรมานมากๆ นั่งๆนอนๆอยู่ซักประมาณ 1-2 ชม.ได้ ก็ลองไปเข้าห้องน้ำดู ก็ยังไม่ถ่าย นั่งในห้องน้ำนานมาก ทำแบบนี้ 2-3 รอบจนในที่สุดก็ถ่ายซะที แต่ถ่ายโดยการพยายามเบ่งอย่างหนัก และผลก็ออกมาว่าถ่ายเป็นเลือด :S (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนท้องถ่ายเป็นเลือดคลิก)แว้บแรกรู้สึกกลัวและกังวลมากๆว่าเป็นอะไรน้าา แต่ถ้าไม่ถ่ายก็ไม่ไหว ปวดท้อง พิมก็เลยไปหาข้อมูลดู ปรากฏว่าการถ่ายเป็นเลือดในคนท้องถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะท้องโตขึ้นทำให้ไปกดทับเส้นเลือด ทำให้ถ่ายเป็นเลือด ดังนั้นต้องดื่มน้ำและทานผลไม้ให้มากๆค่ะ ^^ แต่อาการดังกล่าวไม่มีผลกับตัวเล็กแต่อย่างใด เฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ก็มีปัญหาใหม่ขึ้นมาคือ ตอนนี้พิมกำลังปวดบริเวณเอวข้างขวาอยู่ นั่งในลักษณะพับเพียบหันเท้าไปทางซ้ายยิ่งปวด นวดก็ไม่หายปวดค่ะ เหมือนอาการปวดมันอยู่ข้างในทำให้เราสัมผัสไม่ได้ เวลานอนก็เลยเอาผ้าห่มมาซุกๆที่เอว(นอนตะแคง) แต่ดูเหมือนอาการจะไม่ดีขึ้นเลย :( เลยได้แต่นวดๆแล้วก็หมุนเอวแทน
  กางเกงต่างๆที่เคยใส่ได้ ทั้งกางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้นต่างๆ ตอนนี้กระดุมก็เริ่มจะติดไม่ได้แล้ว ได้แต่สวมทับลงไปเลยไม่ต้องติดกระดุมรูดซิบ พิมจึงเปลี่ยนมาใช้เป็นกางเกงแบบไม่มียางยืดและมีตัวผูกเชือกแทน เอาไว้ใส่อยู่บ้านจะได้นั่งสบายๆ พอเวลาไปรพ.ก็สวมเป็นชุดแซกหรือชุดเอี๊ยมแทน แต่ไม่ใช่ชุดของคนอ้วน เพราะพิมมีหุ่นเท่าเดิมคือแขน ขาไม่ได้ใหญ่ขึ้น แค่พุงใหญ่ขึ้นเท่านั้นเอง :) แต่เพื่อนๆบอกว่า ส่วนมากสังเกตไม่ค่อยออกว่าพิมท้อง ถ้าไม่สวมชุดเอี๊ยมมา (ตอนนั้นประมาณ22สัปดาห์ได้) แต่พิมว่าตอนนี้พุงใหญ่แล้วนะ เดินไปที่ซื้อของที่ 7-11 พนักงานยังทักเลยว่า ดูเหมือนคนท้อง ท้องรึเปล่าคะ พิมก็ตอบว่า ออใช่ค่ะ ดูออกด้วยเหรอคะ พนักงานเค้าก็บอกว่า ก็ดูมีพุงขึ้นมานิดนึง เวลาสวมเสื้อกับกางเกงมองไม่ค่อยออก ยิ่งสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ๆกับกางเกงยีนส์ด้วยแล้ว ส่องกระจกดูแทบไม่ออกเลย แต่ตอนนี้กางเกงยีนส์สวมไม่ได้แล้ว เพราะติดกระดุมไม่ถึง 555+ โชคดีที่เป็นขาเดฟก็เลยสวมได้โดยไม่ต้องติดกระดุมหรือรูดซิบ แต่ต้องสวมเสื้อตัวใหญ่หน่อยไม่งั้นโป๊เห็นกางเกงในแน่เลย (พอดีต้องไปติดต่อราชการเลยสวมเป็นกางเกงยีนส์ดีกว่า)
  ช่วงนี้ยังคงใช้เครื่องดึงนมของพีเจ้นท์ตามที่คุณพยาบาลสั่งเมื่อคราวที่แล้ว แต่ใช้ไม่ค่อยบ่อยเหมือนช่วงแรกเพราะรู้สึกเหมือนปวดท้องกับช่วงเอวด้านขวานิดๆ(แต่ก็แปลกปวดข้างเดียว แถมตัวเล็กก็ชอบอยู่ข้างซ้ายมากกว่าข้างขวาด้วย น้องดิ้นแค่ข้างซ้ายกับมุดลงไปข้างล่าง เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยมาด้านขวาเลย) ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันรึเปล่า ก็เลยลดเวลาในการใช้ลงมา เหลือวันละ 30 นาที/ข้างแทน รู้สึกมีน้ำนมไหลมากขึ้นกว่าตอนแรกที่ใช้ เรียกว่าเอากระดาษซับทีนี่กระดาษชุ่มเปียก ขาดเป็นรูเลยค่ะ และเจ้าที่ดึงนมนี่ เนื่องจากมันเป็นคนใหม่ จึงมีกลิ่นของพลาสติกอยู่ พอมาผสมกับกลิ่นนมแล้วรู้สึกอยากอาเจียนมาก (แต่ก็ยังไม่วายลองแอบดมๆดูอยู่ได้ทุกครั้งเนอะ) น้ำนมมีสีขุ่นๆแต่ไม่ถึงกับขาวค่ะ เวลาใช้เครื่องดึงเสร็จแล้วก็เช็ดหัวนมด้วยกระดาษทิชชู่และเช็ดน้ำนมที่หกในแตรของเครื่องดึง จากนั้นก็เอายางสีชมพูที่เป็นตัวบีบออกแล้วนำปากแตรไปล้าง เคยลองล้างทั้งๆที่ใส่ยางสีชมพูแล้วเพราะว่าขี้เกียจเอาออก -*- ปรากฏว่า น้ำมันค้างอยู่ในนั้นเต็มเลย ต้องเคาะๆอยู่นานกว่าจะออกมาหมด ก็เลยกลัวเป็นเชื้อรา จากนั้นก็เอากระดาษทิชชู่ซับปากแตรให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จละค่ะ
  วันนี้ (9 ต.ค.) เป็นสุดท้ายที่พวกญาติๆของวิทตี้มาพักที่บ้านเรา พิมก็เลยขอคำแนะนำต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมของก่อนคลอด คือก่อนหน้านี้พิมโทรฯคุณกับคุณพ่อแล้ว ท่านเล่าให้ฟังว่า ที่บ้านเราค่อนข้างถือว่าไม่ให้ซื้อของเตรียมไว้ก่อนจะคลอด เค้าว่ามันจะเป็นลางไม่ดี พิมก็เลยบอกว่า อ้าว แต่ถ้ามาซื้อหลังคลอดแล้วมันก็ไม่ทันนะ แถมพิมกะไว้ว่าจะคลอดธรรมชาติ เราไม่รู้ว่าน้องจะมาเมื่อไหร่ แล้วถ้าน้องไม่กลับหัว พิมก็ต้องเปลี่ยนแผนมาเป็นผ่าคลอดแทน ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้นพิมก็คงไม่ได้ไปเดินซื้อของหรอกนะ เพราะก็คงเดินไม่ไหว คุณพ่อก็บอกว่า ทำไมไม่ให้วิทตี้ไปซื้อเล่า มันยากตรงไหนเนี่ย -___- พิมก็เลยบอกว่า เพราะว่าความชอบคนเรามันเหมือนกันหน่ะสิ เราฝากให้ไปซื้อได้ แต่เราก็อยากจะเลือกของเอง อย่างลายผ้าขนหนู ลายผ้ายางอะไรแบบเนี๊ยะ หรือพวกเสื้อผ้า ถึงจะเป็นเสื้อผ้าผูกคอใส่อยู่บ้าน พิมก็อยากจะเลือกสีเอง ให้คนอื่นเลือกให้แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันถูกใจเรา มันอาจจะมีลายน่ารักๆที่เราเห็น และวิทตี้เค้าไม่ได้ซื้อมาก็ได้ เพราะอย่างลายผ้าอ้อมแบบซักได้ ที่พิมเล็งๆเอาไว้ในเว็บแล้วเปิดให้วิทตี้ดู ยังดูแล้วชื่นชอบไม่เหมือนกันเลย แล้วไหนจะเตียงอีก พิมกะว่าจะซื้อเตียงไม้แบบที่ขยายที่กั้นได้เผื่อตอนน้องโต ซึ่งเตียงเนี่ยมันน่าจะต้องสั่งซื้อก่อนล่วงหน้าแล้วเค้ามาส่งให้ไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าไม่ให้ซื้อของเตรียมไว้แล้วจะทำยังไง รอหลังคลอดค่อยสั่งเตียงแล้วน้องจะนอนไหน? คุณพ่อก็บอกว่า เตียงอะ มันซื้อก่อนได้ -*- พิมก็เลยงงว่า อ้าว ถ้าซื้อเตียงก่อนก็เท่ากับซื้อของเตรียมให้น้องก่อน มันก็เหมือนกับเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ? สรุปต่างกันตรงไหน ยังไงก็ต้องเตรียมของก่อนอยู่ดีไม่ใช่หรือไง - -* กฏมันแปลกๆหรือพิมงงเองหว่า  พิมก็เลยถามต่อไปว่า แล้วตอนพิมคลอดซื้อของกันยังไง คุณพ่อก็บอกว่า ไปเดินซื้อพวกเสื้อผูกคอ ผ้ายางตรงหน้าศิริราชอะแหละ มันราคาส่ง ถูกกว่าในห้างอีก อยากได้อะไรก็มีหมดแหละตรงนั้นอะ แล้วก็ไม่ต้องซื้อชุดหมีเยอะ เพราะช่วงเดือน-2เดือนแรกยังไงก็ไม่ได้ออกบ้านอยู่แล้ว แล้วตัวเล็กก็อึ ฉี่ เสื้อผ้าสวยๆอะไม่ได้ใส่หรอก จะได้ใส่ก็แค่ไปรพ.แค่นั้นแหละ (ก็นั่นแหละ -____-) แล้วก็ต้องเตรียมถุงมือ ถุงเท้า หมวก ถุงมือนี่เอาไว้ใส่เพราะน้องเล็บยาว เดี๋ยวจะข่วนหน้าไม่ได้ใส่เอาสวยไม่ต้องแฟชั่นมาก (คิดว่าจะเชื่อ? A_A) ส่วนหมวกก็สวมแค่ตอนออกไปข้างนอกพอ ทีนี้พิมก็มาถามญาติวิทตี้ต่อว่า วันคลอดนี่เราต้องเอาของอะไรไปบ้าง พิมลองไล่ๆลิสต์ดูน่าจะประมาณนี้...

- ชุดชั้นใน กางเกงใน 2 ชุด (หรืออาจมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่รพ.กี่วัน แต่เท่าที่พิมถามหมอดูเค้าบอกว่าถ้าคลอดเองก็อยู่ 2 วัน ถ้าผ่าก็ 3 วัน)
- ชุดใส่กลับ 1 ชุด
- ถุงพลาสติก 1 ใบสำหรับใส่ชุดที่เราใส่แล้ว
- ที่ชาร์ตแบตฯ (ถ้าใครใช้กล้องหรือโน้ตบุ้คด้วย ก็อย่าลืมเอาที่ชาร์ตไปเพิ่มนะคะ)
- ผ้าอนามัยแบบกลางคืน เพราะ พิมอ่านในหนังสือมาเค้าบอกว่า ทางรพ.จะให้เราสวมผ้าอนามัยแบบห่วง เพราะช่วงแรกจะมีน้ำคาวปลา และเพื่อให้ง่ายเวลาเปลี่ยนและเอาไปชั่งน้ำหนักจึงให้ใส่ผ้าอนามัยแบบนี้ไปก่อน แล้วพอซักวันที่ 2-3 หรือว่ากรณีที่คุณหมอตรวจดูแล้วว่าไม่มีความผิดปกติอะไร ให้เราลุกเดินได้ ก็แนะนำให้ใช้ผ้าอนามัยแบบกลางคืนดีกว่า คือเราต้องเตรียมไปเอง เพื่อที่ว่าเวลาเดินจะได้ไม่เจ็บ เพราะผ้าอนามัยแบบห่วงมันจะอยู่บริเวณยอดมดลูกพอดี (บอกตรงๆว่าไม่รู้ว่ายอดมดลูกคืออะไร - -9)
- ผ้ากระชับหน้าท้อง หรือกางเกงในกระชับชนิดผ้าบาง นี่ก็อ่านในหนังสือมาเหมือนกันค่ะ เค้าบอกว่า สำหรับคนที่ผ่าคลอด แนะนำให้ใช้เพราะว่าเวลาขยับมันจะเจ็บ
- ปลอกผ้ายางรัดน่อง อ่านหนังสือมาเช่นกัน ที่ต้องมีเพราะว่า เมื่อเราคลอดลูกแล้วร่างกายจะมีการไหลย้อนของน้ำเหลืองทำให้ขาบวมเหมือนคนเป็นโรคเท้าช้าง ก็เลยแนะนำให้ใช้อันนี้พันเอาไว้
- แผ่นซับน้ำนม
- ผ้าอ้อม
- ผ้าขนหนูสำหรับห่อน้อง อันนี้พิมถามญาติมาค่ะ ว่าขนาดน่าจะประมาณไหน ญาติบอกว่า ต้องเป็นผ้าที่นุ่ม ยาว และใหญ่ อธิบายไซส์ไม่ถูกเหมือนกันค่ะ แต่ญาติเค้าชี้ไปที่ผ้าขนหนูของวิทตี้แล้วบอกว่า กำลังดีเลยไซส์นี้ ผ้าขนหนูอันนี้พิมซื้อมาจาก Big C ผืนสีน้ำตาลช็อคโกแลต นิ่มและใหญ่ดีค่ะ ราคาประมาณ 200 เกือบ 300 บาท แต่ซื้อมานานแล้วจำขนาดไม่ได้ ญาติบอกว่าเตรียมไว้ซัก 2 ผืนเผื่อไว้
- กระดาษทิชชู่สำหรับรองห่อน้อง อันนี้ญาติบอกมาค่ะว่า ก่อนจะห่อผ้าให้น้องต้องมีการรองด้วยกระดาษทิชชู่แผ่นใหญ่ก่อน ขนาดประมาณกระดาษทิชชู่ซับน้ำมันอะค่ะ ใช้ได้เหมือนกัน เพราะเวลาคลอดเด็กออกมาแล้วจะมีพวกขี้เทา อะไรพวกนี้ก็เลยให้เอากระดาษทิชชู่มารองค่ะ
- ชุดหมีของเจ้าตัวเล็ก แอบอยากได้ชุดน้องวัว น้องผึ้งและชุดซานต้าค่ะ ฮิฮิ เห็นในเว็บมาน่ารักมากๆ
- อุปกรณ์อาบน้ำเช่น หวี/แปรงสีฟัน/ยาสีฟัน/ครีมอาบน้ำ/แป้ง/แชมพู/ครีมนวดผม
- ถุงมือและถุงเท้าของตัวเล็ก
- หมอนรองให้นม อันนี้อ่านๆมาเห็นว่า ทางรพ.จะให้ยืมก่อนค่ะ อาจจะไม่ต้องเตรียมก็ได้ เพราะบางท่านก็ไม่ใช้ แล้วแต่ถนัด หมอนรองให้นมพิมเคยเห็นที่รพ.ศิริราชตรงทางเดินไปห้องน้ำในแผนกสูติฯ อันใหญ่เหมือนห่วงยางเลยค่ะ อาจจะเกะกะก็ได้ พิมว่าลองใช้ของทางรพ.ก่อนดีกว่า ถ้าชอบก็ค่อยซื้อจะได้ไม่เสียเงินฟรีโน๊ะ
- ที่ปั้มนม เผื่อใครอยากจะปั้มนมเก็บไว้ค่ะ
- ขนม อันนี้ส่วนตัวค่ะ 555+ ตอนท้องพิมอยากกินเค้กแบล็กฟอเรสของ S&P มากๆ แต่ก็ไม่อยากรบกวนให้วิทตี้ซื้อมา กลัวจะเปลืองตังค์ เพราะเค้าต้องจ่ายค่าคลอด ค่าโน่นค่านี่อีก พิมเลยฝากคุณพ่อให้หิ้วมาให้ด้วยวันคลอด กะว่าพอคลอดเสร็จอวดครวญ บ่นเจ็บเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะนั่งแทะเค้ก 3 ปอนด์ให้หมดในคราวเดียวไปเลย 555+
- หนังสือหรือเกมส์ หรือโน้ตบุ้คเอาไว้แก้เซ็งค่ะ อันนี้ก็ส่วนตัวอีกแล้วค่ะ คือพิมเป็นคนไม่ดูทีวี วันๆอยู่บ้านก็นั่งเล่นเกมส์ นั่งหน้าคอมฯ ดู Series USA สรุป TV มีเอาไว้แค่ใช้ต่อ PS3 เท่านั้นเอง

ของอื่นๆก็อาจจะเพิ่มเติมตามความเหมาะสมนะคะแต่พิมคิดว่าคร่าวๆก็น่าจะประมาณนี้ (หรืออาจจะเยอะไปด้วยซ้ำ เหอๆ)
ส่วนเรื่องชุดของน้องคงต้องติดตามกันอีกทีว่าจะเอายังไง ตอนนี้อยากให้ตัวเล็กกลับหัวมากกว่า -A- กลัวน้องไม่กลับหัวขึ้นมาเดี๋ยวคลอดธรรมชาติไม่ได้ ต้องผ่าคลอด แต่อันที่จริงพิมก็กลัวการคลอดทั้งสองแบบอะค่ะ = = เพราะพิมเป็นคนกลัวเลือด กลัวเจ็บ ขนาดเข็มยังกลัว เจาะเลือดยังร้องไห้เลย แต่คิดว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ สู้ๆ! :)