1.20.2557

8 ม.ค. 57 เรื่องยุ่งๆก่อนจะคลอด



วันที่ 8 ม.ค. 57
   วันนี้พิมมาที่รพ.เพื่อสอบถามเรื่องผ่าคลอดฉุกเฉินกับทางแผนกฉุกเฉิน แต่ปรากฏว่าดันลืมใบฝากครรภ์เอาไว้ที่หน้าโต๊ะคอมฯ -___-" แต่ก็ไปแจ้งกับทางเคาเตอร์ฉุกเฉินว่าเรามีประวัติฝากครรภ์กับทางรพ.อยู่ พยาบาลที่เคาเตอร์ฯเลยบอกให้เราไปที่เคาเตอร์ลงทะเบียนเพื่อให้เค้าเรียกแฟ้มแล้วขึ้นไปที่ชั้น 3 แผนกสูติฯ
  เมื่อมาถึงแผนกสูติฯโดยการเดินขึ้นบันได 3 ชั้น - - ก็เข้าไปคุยกับทางพยาบาล ซึ่งแน่นอนคำตอบคือไม่ได้ เพราะการที่เรามาสอบถาม ถูกเรียกว่า การวางแผนการคลอด ไม่ถือเป็นการผ่าฉุกเฉิน ผ่าฉุกเฉินจะใช้ในกรณีเร่งด่วน เช่น สายสะดือออกมาด้านนอก หรือเด็กไม่สามารถเอาหัวลงได้ แต่ไหนๆก็มาแล้วพยาบาลเลยจัดคิวให้ลองปรึกษากับคุณหมอดู
  การรอปรึกษากับหมอกินเวลาค่อนข้างนาน(มาก) เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดา คนจะเยอะมากเป็นพิเศษ พิมมาถึงรพ.ประมาณ 8-9 โมง แต่นั่งรอเรียกให้พบคุณหมอเกือบจะเที่ยงๆ ระหว่างนั้นแจ็คพ็อตพอดี พิมเหลืบไปเห็นคุณหมอที่พิมฝากครรภ์ประจำ (ซึ่งเค้าคุณหมอคนนี้เป็นคนที่พิมคุยกับเค้าไว้ว่าเราจะฝากพิเศษด้วยถ้าหากผ่าฉุกเฉินไม่ได้) กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจ ประมาณว่ามาเยี่ยมเพื่อน พิมเลยเดินเข้าไปหา โชคดีที่หมอจำพิมได้ เราเลยเข้าเรื่องกันได้ไว
  พิมแจ้งหมอแล้วว่า ขอผ่าฉุกเฉินไม่ได้ แต่พิมอยากผ่าวันที่ 9 ถ้าฝากพิเศษกับหมอจะเป็นไปได้ไหม๊ หมอบอกว่า ต้องขอคีย์คอมฯเพื่อดูคิวของวันพรุ่งนี้(ก็คือวันที่ 9) ก่อน ว่าแล้วหมอก็ไปนั่งที่หน้าคอมฯและคีย์ดู ซึ่งปรากฏว่าคิวผ่าวันที่ 9 เต็ม! คุณหมอเลยบอกว่าถ้างั้นต้องเสี่ยงดวงดู คือให้เรามาแอดมิทตั้งแต่วันนี้เลยหมอจะเซ็นฯให้ หรือไม่ก็มาพรุ่งนี้เช้ามืดซักตี4-5 เพื่อมาดู ลุ้นว่าคิวจะว่างไหม๊ แต่พิมไม่ได้เอาใบฝากครรภ์มาและหมอมีประชุมตอนบ่าย พิมเลยถามว่าเป็นไปได้ไหม๊ ถ้าพิมนั่งรถกลับไปแล้วเอาใบฯมาให้หมอเซ็น หมอบอกว่าคงไม่ได้ เพราะพิมจำเป็นต้องพบกับหมอวิสัญญีก่อน ซึ่งปกติเค้าจะเข้ามาคุยกับคนไข้ที่แอดมิทรพ.ก่อนเที่ยง พิมก็เลยกะจะหาข้าวกลางวันทานแล้วกลับบ้าน
  ระหว่างที่ทานข้าวกลางวัน ปรากฏว่าป้าของพิมโทรฯมาถามเรื่องการจองห้อง และการจองคิวผ่า ซึ่งพิมก็เล่าให้เค้าฟัง ป้าบอกว่าถ้ามาตอนเช้ามืดกลัวว่าทีมหมอจะเตรียมตัวไม่ทัน ขอรองคุยกับหมอดูได้ไหม๊ให้แอดมิทวันนี้ บวกกับพิมทะเลาะกับวิทตี้เรื่องลืมใบฝากครรภ์ทำให้เราไม่มีโอกาสได้ผ่าคลอดในวันพรุ่งนี้ด้วย พิมเลยโทรฯไปหาหมออีกทีและลองเซ้าซี้ดู - -* หมอบอกว่า ถ้าหากเราบอกเค้าว่าเราจะผ่าพรุ่งีน้ เค้าไม่ให้แน่ๆ เพราะไม่มีใบฝากครรภ์และหมอก็ยังไม่ได้เซ็น เค้าอาจจะให้นอนรพ.แต่ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้รอการผ่าตัดแต่เหมือนมานอนรพ.เล่นๆมากกว่า เอางี้แล้วกัน ให้เรากลับไปเอาใบฝากครรภ์มายื่นที่ฉุกเฉินและแจ้งเค้าไปว่ามีอาการปวดท้องกี่นาทีก็ว่าไปมั่วเอา แล้วบอกเค้าว่าฝากพิเศษกับหมอ หมอรู้แล้วแต่พอดีหมอไม่ได้เซ็นเพราะคนไข้ลืมใบฝากครรภ์มา แต่ถ้าคนไข้ได้แอดมิทแล้วให้พยาบาลโทรฯบอกหมอด้วย ได้ยินอย่างงั้นพิมเลยรีบนั่งแท็กซี่ไป-กลับที่บ้าน วิ่งขึ้นบันได 4 ชั้นไปคว้าใบฝากครรภ์จากหน้าโต๊ะคอมฯ และนั่งรถกลับมายังรพ.
  มาถึง พยาบาลที่ฉุกเฉินก็จำหน้าพิมได้และถามว่าเป็นยังไงบ้าง พิมเลยบอกว่า พิมเปลี่ยนมาฝากพิเศษกับหมอแล้ว แต่ที่ไม่ได้เซ็นชื่อเพราะหมอต้องไปประชุม แต่คุยกับหมอแล้วเรียบร้อย จากนั้นพยาบาลอีกคนก็มาซักถามเราว่ามีอาการอะไรบ้าง พิมก็เลยตอบไปว่ามีอาการปวดท้องประมาณช่วงเที่ยงๆ แต่ไม่ได้จับเวลา ทางฉุกเฉินจึงเรียกรถเข็นให้และเข็นเราไปยังห้องคลอดที่เดิมที่เราไปแอดมิทตอนจะคลอดก่อนกำหนด
  ประมาณบ่ายโมง เมื่อไปถึงคุณหมอเวรที่นั่นก็ทำการซักถามประวัติคร่าวๆ คิดเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก และตรวจภายใน ซึ่ง...เจ็บมากก - - หมอบอก 2,80 แล้วเดินจากไปเพื่อไปบันทึกแล้วเดินกลับมาคุยกับเราต่อ “ตอนนี้ปากมดลูกเปิด 2 ซม.แล้วนะคะ ความนุ่มของปากมดลูกอยู่ที่ 80% ตอนนี้โทรฯแจ้งคุณหมอ(ที่เราฝากพิเศษด้วย) แล้ว ตอนนี้ก็ให้คนไข้นอนรอไปก่อน ถ้ามีอาการเจ็บมากขึ้น น้ำเดิน หรือมีมูกเลือดให้แจ้งพยาบาล ถ้าหากว่ามีการคลอดวันนี้ทางคุณหมอ(ที่ฝากครรภ์)ก็จะให้ทำการคลอดธรรมชาติ ถ้าหากพรุ่งนี้ยังไม่คลอดก็จะผ่าแทน แล้วก็ได้คิวผ่าคลอดของวันพรุ่งนี้แล้วนะคะ คิวสุดท้าย” จากนั้นพยยาบาลก็ทำการโกนขนให้และปล่อยให้พิมนอน(เล่น)ไป
  ซักพักพิมลุกไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่ามีเลือดไหลออกมาปนกับปัสสาวะ เลยกดเรียกพยาบาล ซึ่งเค้าบอกว่า เป็นเพราะตรวจภายในมาเลยมีเลือดออกในช่องคลอด พิมเลยถามว่าอ้าว งั้นก็ไม่ใช่มูกเลือดใช่ไหม๊ เค้าตอบว่าใช่ และมันดูเหมือนจะไหลปนมากับปัสสาวะนานขึ้น บ่าย3ก็ยังไม่หาย ทั้งที่ถ้าเลือดออกมันควรจะหายแล้ว(รึเปล่า?) ก็เลยเรียกพยาบาลอีกที คราวนี้พยาบาลเลยเอาผ้าอนามัยแบบห่วงมาสวมให้เพื่อดูว่าเลือดไหลปริมาณแค่ไหนแล้ว
   พอซักพัก หมอวิสัญญี(ซึ่งชื่อเดียวกันกับหมอที่จะผ่าเราเลย 555 เวลาจะเล่าให้วิทตี้ฟังต้องใช้ หมอA กับหมอB ไม่งั้นงงว่าหมายถึงคนไหน) ก็เข้ามาคุยกับพิมเรื่องการบล็อคหลังว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง โดยการบล็อคหลังจะให้คุณแม่งอตัวให้อยู่ในท่าเหมือนกุ้งสุก จากนั้นจะทำการฉีดยาชา และต่อด้วยยาบล็อคหลัง คุณแม่จะไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ลิ้นปี่ลงไปจนถึงเท้า และจะรู้สึกว่าขยับเท้าไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องพยายาม เวลามีคนจับหรือมีการผ่าเราจะรู้สึก แต่จะรู้สึกเหมือนของไม่มีคมมาถูที่ท้องมากกว่า ให้คุณแม่ทำใจไว้ก่อนเลย และผลจากการบล็อคหลังอาจจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ให้เรียกพยาบาลได้ ส่วนคิวผ่าคิดว่าน่าจะได้ตอนเที่ยงๆบ่ายๆ เพราะห้องผ่าตัดเปิดตอน 9 โมง มีทั้งหมด 5 คิวเราเป็นคิวที่ 6 จากนั้นพิมก็ถามเรื่องการใส่สายปัสสาวะ ว่ามันเจ็บไหม๊ ซึ่งหมอวิสัญญีบอกว่า เจ็บนะเท่าที่เคยฟังๆมา พิมเลยถามว่าถ้างั้นขอใส่สายหลังจากบล็อคหลังได้ไหม๊ หมอบอกว่าได้ แต่อาจจะเสียเวลาหน่อย แต่โอเคเดี๋ยวหมอทำให้ และหมอจะให้ยาลดกรดไปทานระหว่างนั้นด้วย เป็นอันว่าเข้าใจ จากนั้นหมอวิสัญญีก็ไป ส่วนพิมก็นอนต่อ
  พอถึงเวลาอาหารเย็น พยาบาลเข้ามาแจ้งว่า หลังจากเที่ยงคืนแล้ว ห้ามกินอะไรใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือขนม เพราะเราจะทำการผ่าตัดพรุ่งนี้ พิมเลยกินข้าวรพ.จนหมด กินขนมจนเกลี้ยง xD กลัวจะไม่ได้กินและหิวตอนดึกๆ จากนั้นก็นอนหลับเตรียมตัวสำหรับการขึ้นเขียงวันพรุ่งนี้
ปล. WiFi ที่รพ.ช้ามากๆ เข้า Facebook,Google ก็ไม่ได้ เข้าได้แต่ Line แถมโทรฯผ่านไลน์ไม่ได้/ดูสติ๊กเกอร์(บางอัน)/มองไม่เห็นรูป ด้วย = =