วันนี้ (9) เฟรย่าเริ่มมีไข้ขึ้นสูงถึง 38.8 องศา แต่อาการอื่นๆเริ่มดีขึ้น เสียงครืดคราดในปอดเริ่มลดลง แต่ยังคงต้องพ่นยา ดูดน้ำมูก และให้น้ำเกลือยู่
วันที่ 10 อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแต่ยังคงมีไข้ขึ้นๆลงๆอยู่ หมอปรับลดปริมาณน้ำเกลือลงและส่งเสมหะไปตรวจเพื่อหาโรคเพิ่มเติม
ตกเย็นเฟรย่ามีไข้ขึ้นสูงอีกถึง 39 องศาและเส้นเลือดเริ่มทึบทำให้น้ำเกลือไม่เข้า แต่พิมลองคุยกับหมอดูว่าอาการน้องดีขึ้น เริ่มกินนมได้มากขึ้นด้วย หมอจึงตกลงหยุดการให้น้ำเกลือ
ณ ตอนนี้อาการทุกอย่างเริ่มดีขึ้น แต่หมอเป็นกังวลเรื่องไข้ที่ขึ้นสูง หมอเริ่มลดปริมาณยาพ่นลงและเวลาในการพ่นให้ห่างออกไปเรื่อยๆเพื่อรอดูอาการ และตอนนี้ไม่มีการดูดน้ำมูกแล้ว
วันที่ 11 ผลของเสมหะที่ส่งตรวจออกมาแล้ว พบว่าเฟรย่าเป็นปอดอักเสบ และวันนี้เฟรย่าต้องทำการเจาะเลือดเพิ่มเพื่อตรวจดูว่าทำไมยังมีไข้อยู่ นอกจากนี้ยังต้องอยู่พ่นยาและเอ็กซเรย์เพื่อหาภาวะติดเชื้อเพิ่มเติมว่าทำไมอาการไข้ถึงไม่ลดลง พร้อมตรวจปัสสาวะและฉีดยาแก้อักเสบ
บ่าย 2 โมง หลังจากพ่นยา วิทตี้เช็ดน้ำมูกให้เฟรย่าและพบว่ามีเลือดติดมาเล็กน้อย แต่หมอแจ้งว่าอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากทำการดูดน้ำมูกบ่อยเกินไป ผลปัสสาวะที่ออกมายังคงเป็นสีเข้มทำให้เฟรย่าต้องพยายามกินน้ำเพิ่ม ไม่งั้นอาจจะต้องกลับไปให้สายน้ำเกลืออีก
บ่าย 3 โมง หมอเข้ามาตรวจและพบว่ายังมีเสียงวี๊ดๆในปอดอยู่ทั้งที่พึ่งพ่นยาไปไม่นานและต้องส่งไปพ่นยาใหม่เพราะอาจเกิดจาก ขณะที่พ่นยา เฟรย่าดิ้น ทำให้ยาเข้าไปไม่เต็มที่
หลังจากพ่นยาเรียบร้อยอีกครั้ง หมอเข้ามาฟังเสียงปอดอีกครั้งและพบว่าเสียงดีขึ้นแต่ดูเหมือนเฟรย่าจะเหนื่อย ทำให้ระหว่างพ่นยา เผลอหลับไปเลย
หมอติดตามผลเอ็กซเรย์และพบว่า มีฝ้าที่ปอดมากขึ้นกว่าวันแรก และหลังจากการให้ยาฉีดแก้อักเสบแล้วต้องรอดูอาการอีกประมาณวันสองวัน เพราะดูเหมือนเฟรย่ายังเหนื่อยอยู่และมีไข้
ตกดึก หมอเข้ามาแจ้งผลการตรวจเสมหะที่ส่งไปว่าออกมาแล้ว พบว่าเฟรย่ามีหลอดลมตีบและติดเชื้อ RSV ซึ่งเป็นเชื้อที่ระบาดหนักอยู่ในตอนนี้ (ตึกสามัญโดนกันเกือบครึ่งห้องแล้ว) ท่านใดสนใจในเชื้อ RSV สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ณ ตอนนี้ยังคงต้องดูอาการต่อไปค่ะ
หน้าตาเครื่องฉีดยาอัตโนมัติที่ใช้ฉีดยาแก้อักเสบให้เฟรย่าค่ะ
