10.09.2556

24 ส.ค. 56 กับการฝากครรภ์

อายุครรภ์ : 18 สัปดาห์
   ระหว่างช่วงนี้ พอดีว่าญาติของวิทตี้จากสุพรรณฯต้องมาฉายรังสีมะเร็งลำไส้ที่รพ.ศิริราชพอดี พวกเค้าก็เลยมาพักกับเราประมาณ 1-2 เดือน หลังจากที่ทราบผลว่าท้องจากคราวที่แล้ว พิมและวิทตี้ก็โทรไปบอกข่าวดีที่บ้าน รวมทั้งบอกกับญาติที่มาพักด้วย ทีนี้วิทตี้ก็ปรึกษากับทางญาติว่าจะฝากครรภ์ที่ไหนดี ตอนแรกเรานึกว่าฝากครรภ์กับทางรพ.ธนบุรีที่ตรวจครั้งที่แล้วไปแล้ว แต่ปรากฏว่ายังนี่นา เพราะเค้าไม่ได้มีเอกสารอะไรมาให้เรา สรุปมันแค่ไปตรวจเฉยๆแล้วตอนนี้ก็กำลังรอผลเลือดอยู่ ซึ่งจะออกมาวันที่ 25 ส.ค. 56 ดังนั้นเราจึงมาคุยกันว่า เราจะฝากครรภ์ที่รพ.ไหนดี
  โดยส่วนตัวพิมค่อนข้างชื่นชอบการบริการของรพ.ธนบุรีที่ไปตรวจมามากกว่า แต่เสียดายที่หมอที่ตรวจเป็นผู้ชาย และค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง วิทตี้หาเงินคนเดียว พิมอยู่บ้าน ถ้าหากว่าตรวจทุกครั้งต้องจ่าย 5000+ ทุกครั้งก็คงไม่ไหว รพ.นี้มี 2 สาขา อาของพิมก็เคยคลอดลูกมาแล้ว 3 คนที่สาขา 2 พิมก็ค่อนข้างมั่นใจว่ารพ.นี้เชื่อถือได้ (แต่สาขา 2 อยู่แถวบ้านของคุณพ่อพิมนะคะ ไกลจากที่นี่) ส่วนพิม หม่าม้าพิมเค้าคลอดที่ศิริราช ญาติก็แนะนำว่า คลอดที่ศิริราชดีกว่า เพราะถ้าเอกชนเครื่องไม้เครื่องมือมันไม่ค่อยพร้อม ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็ต้องส่งรพ.ใหญ่ๆอย่างศิริราชอยู่ดี เราจึงตัดสินใจไปฝากครรภ์ที่รพ.ศิริราชในเช้าวันเสาร์ที่ 24 ส.ค.
  เมื่อไปถึงรพ.ศิริราช รถกระป๋องสีแดงจอดหน้าทางเข้า พวกเราก็จูงมือเดินกับไปยังตึกผู้ป่วยฉุกเฉิน คือเราไม่ได้เป็นอะไรฉุกเฉินหรอกนะคะ แต่มาเดินมองหาตึกสูตินารี ซึ่งอยู่ข้างในชั้น 3 จากการสอบถามพยาบาล เมื่อไปถึงเราก็ยังเข้าตรวจไม่ได้ พยาบาลไล่ให้ไปทำบัตรผู้ป่วยใหม่ ซึ่งต้องเดินเลยไปอีก การทำบัตรก็ไม่ยุ่งยากแค่กรอกเอกสาร ยื่นบัตรประชาชน ทางเจ้าหน้าที่เค้าก็จะซีล็อคและขยายรูปในบัตรประชาชนของเรามาทำแฟ้มใหญ่ๆสีส้มๆ เบ็ดเสร็จขั้นตอนก็ประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้เพราะคนไม่เยอะ
  จากนั้นเราก็เอาแฟ้มสีส้มกับบัตรไปยื่นให้พยาบาลที่เคาเตอร์แผนกสูตินารีใหม่ เค้าก็ถามเราว่าต้องการจะตรวจกับหมอคนไหนเป็นพิเศษไหม ตอนแรกวิทตี้อยากให้ตรวจกับคุณหมอพรพิมล เพราะอ่านจากในเว็บมา หลายๆท่านก็บอกว่าคุณหมอทำคลอดดี แต่ปรากฏว่า คุณพรพิมลไม่ได้เข้าตรวจวันนี้ ก็เลยเปลี่ยนเป็นคุณหมอคนอื่นแทน จากนั้นพยาบาลก็จะให้เรามาชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจปัสสาวะลงบนกระดาษเล็กๆมีแถบสี 3 สีเพื่อวัดค่าน้ำตาลในเลือด โดยจะมีสีเหลือง ส้ม แล้วก็ส้มเข้มถ้าจำไม่ผิด คุณพยาบาลบอกว่าจะต้องทำแบบนี้ทุกครั้งที่มารับการตรวจค่ะ
  แล้วก็รอซัก 20 นาที คุณพยาบาลก็เรียกมาซักประวัติว่า เคยฝากครรภ์รึยัง ท้องกี่สัปดาห์แล้ว มีโรคประจำตัวไหม มีญาติเป็นโรคอะไรไหม จากนั้นก็ไปทำการประเมินเต้านม คุณพยาบาลที่ประเมินเต้านมบอกว่าพิมเป็นคนหัวนมสั้น ทำให้ตัวเล็กดูดนมยาก พิมจึงต้องบริหารหัวนมทุกครั้งข้างละ 30 ครั้งต่อวัน โดยคุณพยาบาลก็อธิบายวิธีการว่าทำอย่างไร วิธีการคือให้ใช้นิ้วชี้ 2 ข้างค่อยๆดึงตรงลานนม คือใช้นิ้วค่อยๆแยกหัวนมออกจากกัน (อธิบายยากจังแฮะ XD) ทำทั้งแนวตั้งและแนวนอน จากนั้นก็ให้เราไปรอที่หน้าห้องตรวจของคุณหมอ แต่คุณหมอจะมาช้านิดนึงเพราะกำลังผ่าตัดอยูู่ ระหว่างนั้นวิทตี้ต้องกลับบ้านเพื่อไปแก้งาน
  พอคิวตรวจมาถึง ปรากฏว่าวิทตี้ก็ยังมาไม่ถึงเลย คุณหมอถามพิมว่าจะรอก่อนไหม พิมก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ งั้นมาเริ่มตรวจกันเลยดีกว่า... พิมแจ้งกับทางพยาบาลตอนเค้าซักประวัติว่า พิมกำลังรอผลเลือดจากรพ.เอกชน เพื่อเลี่ยงการตรวจเลือดใหม่อีกรอบนึง คุณหมอจึงยังตรวจอะไรไม่ได้มากคราวนี้ ก็เลยแจ้งว่า คราวหน้าให้เอาผลเลือดและภาพอัลตร้าซาวน์ของตัวเล็กมาด้วย แล้วก็คราวหน้าให้ไปอัลตร้าซาวน์ที่ตึกพระศรีฯก่อนมาหาหมอ สำหรับวันนี้ก็ให้รับวัคซีนกันบาททะยักไป พิมก็งอแงหมออยู่นานเลยว่าพิมกลัวเข็ม หมอก็หัวเราะแล้วบอกว่า ต้องฉีดค่ะ ปกติฉีดกัน 3 เข็มน้า แต่นี่อนุโลมให้ฉีดแค่เข็มเดียวพอ,โอเค งั้นก็ได้ค่ะ พิมตอบ คุณหมอได้ถามว่าที่บ้านมีใครเป็นโรคอะไรไหม พิมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เออ อากงพิมเป็นเบาหวานนี่นา (อากงแปลว่า ตา) ก็เลยแจ้งคุณหมอไปว่าตาเป็นเบาหวาน ส่วนแฟนเป็นไวรัสตับอักเสบบีค่ะ คุณหมอก็จดไว้ในแฟ้มและบอกให้เราไปรับยามาฉีดแล้วกลับบ้านได้เลย อ้อ พิมถามหมอด้วยนะคะ ว่าทางขนมเค้ก ขนมหวานไรแบบนี้ได้ไหม คุณหมอตอบว่าได้ คนท้องกินได้เต็มที่เลย ตราบใดที่น้ำหนักไม่ขึ้นมากก็กินไปเถอะ (อ้าว แอบงงเล็กๆ - -9) แล้วคุณหมอก็ให้ขึ้นเตียงฟังเสียงหัวใจน้องซักเล็กน้อย เครื่องฟังเสียงหัวใจจะคล้ายๆเครื่องอัลตร้าซาวน์อะค่ะ ใช้วนๆท้องเหมือนกันเลย แต่จะมีเสียงดังออกมาจากลำโพงเล็กๆแทน ตอนเอามาวนๆท้องครั้งแรกเสียงข้างในท้องดังมากจนพิมตกใจเลยค่ะ ทั้งเสียงกระเพาะเอย อะไรเอย (เคยอ่านมาเห็นเค้าบอกว่าดังกว่าเสียงเครื่องดูดฝุ่นซะอีกนะ ในท้องคนเราเนี่ย เจ้าตัวเล็กอยู่เข้าไปได้ยังไงหว่า - -) เลื่อนลงมานิดนึงก็เริ่มจะได้ยินเสียง ตุบๆละ พอขยับไปให้ชัดกว่านี้อีกหน่อย ปรากฏว่าเจ้าตัวเล็กวิ่งหนีหมอหายไปซะงั้น O_O คุณหมอก็บอก แหน่ะ! ให้ฟังเสียงหัวใจแป๊บเดียว หนีหมอซะละ แล้วคุณหมอก็วนๆท้องใหม่ น้องก็หนีอีก สุดท้ายก็เลยต้องจับท้องเอาไว้ ไม่งั้นน้องหนีอีก ฮิฮิ เสียงหัวใจปกติดีค่ะ จะดังถี่ๆในช่วงแรกแล้วจะดังปกติเหมือนคนเราช่วงปลายๆ เป็นอันเสร็จกิจกรรมฟังเสียงเจ้าตัวเล็ก
   จากนั้นพิมก็เดินไปที่เคาเตอร์ด้านนอก จ่ายเงินประมาณ 500 บาท รับวัคซีนมา(รู้สึกอย่างกะเล่นเกมส์ Resisdent evil 2 ที่ต้องเอาวัคซีนไปให้จิลเลย 555) จากนั้นก็เดินกลับไปที่แผนกสูติฯให้คุณพยาบาลฉีด ก็เหมือนเดิมค่ะ พิมแจ้งว่าพิมเป็นคนกลัวเข็ม คุณพยาบาลก็บอกว่า พิมหน้าซีดมากเลย ถ้าไม่ไหว จะวูบให้บอกนะ พิมก็บอกว่า โอเค จากนั้นคุณพยาบาลก็ค่อยๆฉีดยาที่แขนเบาๆ จึ้ก! แล้วก็ค่อยๆให้วัคซีนมันไหลเข้าไปช้าๆ เสียบคาอยู่นานเลย ก่อนหน้านี้พิมหันหน้าไปทางอื่นแต่เห็นว่านาน เลยหันมาดูซักหน่อย "ยังไม่เสร็จเหรอคะ" พิมถาม "ถ้าฉีดไปเลยปึ้ดเดียวเนี่ย มันจะปวดมากค่ะ ก็เลยค่อยๆฉีดมันจะดีกว่า" เออ จริงแฮะ มันปวดแบบช้าๆนิดๆแต่ทนได้ ไม่ได้ปวดเหมือนทุกครั้งที่ฉีดคือ ปี๊ดดดด สะเทือนไปทั้งแขนเลย "กลับบ้านไปกินยาพาราได้นะคะ เพราะมันจะปวดอยู่ประมาณ 2-3วัน" คุณพยาบาลบอกพร้อมกับยิ้มหวาน :) โห...2-3วันเลยเหรอ? นานนะเนี่ย นี่ก็ปวดนะเนี่ย แต่คงไม่กินดีกว่าพารา ก่อนหน้านี้พิมใช้เจลแต้มสิวเคลาซิลไป เพราะไม่รู้ว่าท้อง ดังนั้นเลยขอเลี่ยงยาพาราดีกว่า ทนปวด งอแงให้วิทตี้ฟังแล้วก็กลับบ้านไป วันพรุ่งนี้ไปรับผลเลือดที่รพ.ใหม่ A_A
ปล. สำหรับคนที่เพิ่งมารพ.ศิริราชใหม่ๆและเดินหลง หรือไม่รู้ว่าจะทำยังไง สอบถามใคร พิมแนะนำให้หาคุณเจ้าหน้าที่ชุดสีเขียวแก่นะคะ เค้าจะประจำตามจุดต่างๆ อย่างถ้าเป็นตึกผู้ป่วยนอกจะอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องเจาะเลือด พิมเจอคุณเจ้าหน้าที่ชุดเขียวครั้งแรกตรงเคาเตอร์จ่ายเงินหน้าแผนกสูตินารี แนะนำดีมากค่ะ เพราะศิริราชไม่เหมือนธนบุรี :S ธนบุรีจะมีพยาบาลคอยเดินนำหน้าไปส่งเราตามแผนกต่างๆ แต่ทางศิริราชเราจะต้องเดินเรื่องเองทั้งหมด พิมลองถามคุณพยาบาลตามเคาเตอร์แจกคิว หรือเจ้าหน้าที่คอม(ในแผนสูติจะมีจนท.คอมอยู่ขวามือ)แต่ละคนก็แนะนำไม่เหมือนกัน บางคนบอกไปที่เคาเตอร์โน้น บางคนบอกไปเคาเตอร์นี้ สุดท้ายถามเจ้าหน้าที่ชุดเขียวดีกว่า ^^ (ตอนนั้นถามเกี่ยวกับเรื่องทำบัตรค่ะ ถ้ากรณีอยู่ในแผนกสูติฯแล้วจะไม่มีพยาบาลชุดเขียว แนะนำให้ถามเคาเตอร์ 1 ทางซ้ายดีกว่า)